วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ดื่มน้ำแร่...ดีจริงหรือ?



             ต่อเนื่องเรื่องน้ำดื่มกันอีก หลังจากได้รู้กันไปแล้วว่า ดื่มน้ำน้อยหรือขาดน้ำจะก่อให้เกิดโรคใดได้บ้าง ในทางตรงกันข้าม ใครดื่มน้ำที่ไม่เหมาะบ่อยๆ หรือกินผิดน้ำ ก็ก่อร่างสร้างโรคได้เหมือนกัน แต่ก็ยังมีข้อข้องใจต้องคลายอีก สำหรับ ‘น้ำแร่’ อันเป็นที่สนใจของคนรักษ์สุขภาพ ที่ถามว่า ดื่มน้ำแร่ดีจริงหรือ
             
ก่อน อื่นต้องขอตอบให้หายสงสัยว่าน้ำแร่จริงๆ แท้ๆ คือ น้ำที่ได้จากธรรมชาติ เช่น น้ำพุ น้ำใต้ดิน ผ่านการกรองโดยธรรมชาติมาแล้ว ซึ่งจะมีแร่ธาตุผสมอยู่ อย่าง แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เกลือ (โซเดียม) และกำมะถัน เป็นส่วนผสมหลัก                                                             เมื่อนำมาทำเป็นสินค้า หรือน้ำแร่บรรจุขวด ผู้ผลิตจะนำไปผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดและปลอดภัยก่อน โดยปัจจุบันมีน้ำแร่วางจำหน่ายแบ่งได้คร่าวๆ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำแร่ปรุงแต่ง’ ที่มีการเติมแร่ธาตุลงไปก่อนบรรจุขวด ชนิดต่อมา น้ำแร่ธรรมชาติจากน้ำพุร้อน’ มาจากน้ำพุใต้ดินที่พวยพุ่งขึ้นมา มักมีกำมะถันเจือปนรวมอยู่ และ ‘น้ำแร่ธรรมชาติจากน้ำพุเย็น’ ได้มาจากน้ำฝนตามธรรมชาติไหลผ่านการกรองของชั้นดินและหินลึกลงไปใต้แผ่นดินราว 1,000ฟุต                             
             
ในข้อดีของน้ำแร่ที่มีรสชาติต่างไปจากน้ำดื่มธรรมดา คือ เสริมระบบย่อยอาหาร ป้องกันฟันผุ ช่วยขับปัสสาวะลดกรดในกระเพาะอาหาร เสริมสร้างกระดูก ป้องกันโรคคอพอก รักษาสมดุลร่างกายในด้านความเป็นกรด-ด่าง รวมถึงสมดุลของน้ำในร่างกายด้วย                               
             
หากอยากได้ข้อดีจากน้ำแร่ก็ดื่มได้ไม่ต้องกังวล แต่หากร่างกายป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับไต เพราะแร่ธาตุในน้ำแร่จะตกตะกอนรวมตัวแล้วกลายเป็นนิ่วได้ ยังรวมถึงคนไข้โรคหัวใจควรเลี่ยงดื่ม เนื่องจากธาตุโพแทสเซียม ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ เช่นเดียวกับคนวัยทองที่รู้ตัวว่ามีปัญหาความดันโลหิตทำให้สูงขึ้นได้ คุณแม่ตั้งครรภ์เสี่ยงจะจุกเสียดท้องและโลหะหนักมีผลต่อทารก บ้านไหนให้เด็กๆ เน้นดื่มน้ำแร่นานวันเข้าฟันขาวๆ จะปรากฏจุดด่างดำ เพราะฟลูออไรด์นั่นเองคงไม่ฟันธงชี้ชัดว่า ดื่มน้ำแร่ดีหรือไม่ แต่จากข้อดีและข้อเสียเฉพาะบุคคลที่นำเสนอไป คงเป็นหน้าที่ของผู้อ่านแล้วล่ะคะ ว่าน้ำแร่จำเป็นต่อการเสริมสุขภาพของคุณหรือไม่?    

ที่มาhttp://www.thaihealth.or.th
สืบค้นเมื่อวันที่  4  กุมภาพันธ์  2556




2 ความคิดเห็น: